ผมก็ไม่พลาดรับชมเรื่องต่างๆเช่นเคยเหมือนกับซีซั่นที่แล้ว
ในเอนทรี่ก่อนหน้าผมทายรางวัลเอาไว้
ปรากฏว่าSanada
Maruเอาไปกินหมด
555
เป็นเรื่องที่ผมไม่ได้ดูเสียด้วยสิ
แต่อย่างน้อยละครที่เดาไว้ก็ติดที่2-3ทุกคนครับ
ค่อยยังชั่ว
ทั้งนี้
ในเอนทรี่นี้ผมจะหยิบละคร4เรื่องที่ได้ดูตอนแรกไปแล้วนำมาเขียนความคิดเห็นครับ
ทั้งนี้ยังไม่ได้คะแนนนะครับ
รอให้จบซีซั่นแล้วค่อยให้คะแนนอีกทีนึง
- The Last Cop
ฉายวันเสาร์
21.00 ทางช่อง
NTV
เรื่องย่อ
เคียวโกคุ
โคสุเกะ (คาราซาวะ
โทชิอากิ)
ตำรวจเลือดร้อนฟื้นขึ้นมาหลังจากที่เขานอนไม่ได้สติมาเป็นเวลา30ปี
โลกที่เขาเคยรู้จักก็เปลี่ยนไป
เพื่อนร่วมงานของเขาก็เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้า
ครอบครัวที่เคยมีก็ถูกรุ่นน้องแย่งไป
เทคโนโลยีต่างๆก็มีการพัฒนามากขึ้น
แต่ทว่าอาชญากรรมกลับไม่ได้ลดลงเลยสักนิด
เขาจึงกลับมาเป็นตำรวจอีกครั้งและถูกจับคู่กับคู่หูคนใหม่
โมจิซึกิ เรียวตะ (คุโบตะ
มาซากิ)
เพื่อสะสางคดีของชายปริศนาชื่อคางุระที่เคยปั่นป่วนตำรวจจนเขาต้องเข้าโรงพยาบาลในคราวนั้น
ความคิดเห็น
- The Last Cop เป็นละครที่ทำภาคพิเศษ4ตอน (แบ่งเป็นseason0 -1ตอน และseason1 – 3 ตอน) งงมั้ย
- โดยในSeason 0 จะเล่าเรื่องพื้นหลังตัวละครคร่าวๆ และเปิดเรื่องเกี่ยวกับกลุ่มอาชญากรที่ชื่อชีซ่าร์(ฉายในปี2015) ส่วนในSeason 1 จะเริ่มเล่าความสัมพันธ์ของเคียวโกขุกับครอบครัว จบseason0กับ1ก็จะเคลียร์เรื่องครอบครัวแต่วายร้ายคางุระก็ยังคงเป็นปริศนาต่อไปให้เรามาดูต่อในseason2
- ซึ่งจะมาแบ่งซอยอะไรกัน 5555 ทำให้มันเป็นภาคเดียวกันก็ได้ โธ่
- ละครเรื่องนี้ตลกกว่าที่คิดครับ ถึงตาเคียวโกคุจะเล่นมุกลุงที่ไม่ค่อยตลกเท่าไหร่ แต่ก็แอบขำในความฝืดอยู่เหมือนกัน ผมว่าจังหวะตลกมีความคล้ายคลึงกับเรื่องIe Uru Onnaนิดๆ
- สิ่งที่ชอบอีกอย่างหนึ่งคืองานระเบิดภูเขาเผากระท่อมโหดมาก ระเบิดเป็นระเบิดไม่มีก๊องๆแก๊งๆ บู๊สะบั้นจริงๆครับ อาหลองควรดู
- คาราซาวะ โทชิอากิ หล่อมากกกก หล่อวัวตายควายล้ม เหมือนดูพี่ติ๊กเจษ แก่แล้วก็ยังหล่อ งานบู๊พี่แกก็ทุ่มสุดตัว
- คุโบตะ มาซากิ เล่นเป็นตัวคอมเมดี้ของเรื่อง ซึ่งก็ทำได้ดีครับ งานoveractionพี่แกทำได้โอเวอร์จริงๆ บางทีก็หนวกหูไปหน่อย ลืมภาพไลท์ในเดธโน๊ตไปเลย
- อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือซาซากิ โนโซมิ ผมเป็นแฟนคลับเธอตั้งแต่เรื่องFirst Classครับ เรื่องนี้ก็เล่นเป็นลูกสาวที่น่ารักได้ดีเหมือนกัน
- เนื้อเรื่องเกี่ยวกับการสืบสวนมันยังไม่อลังการเท่าไหร่ แต่ที่ชอบอีกอย่างคือเนื้อเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวครับ อบอุ่นและหาsolutionของเรื่องได้ดีจริงๆ ยอมใจ
- สรุป ดูต่อแน่นอนครับ ดูกันยาวๆจนจบ หวังว่าจะจบไม่แป้ก (แต่ละครสืบสวนญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าจบแป้กอยู่แล้วฉะนั้นก็อย่าคาดหวังเลย T_T) ดูเอาฮาครับ
- Jimi ni Sugoi!ชื่ออังกฤษ Pretty Proofreaderฉายวันพุธ 22.00 ช่องNTV
เรื่องย่อ
โคโนะ
เอทสึโกะ (อิชิฮาระ
ซาโตมิ)
สาวน้อยผู้หลงใหลในวงการแฟชั่น
และใฝ่ฝันที่จะเป็นกองยรรณาธิการนิตยสารLassyมาอย่างยาวนาน
เธอกลับไม่ถูกรับเลือกเข้าทำงานเลยสักครั้ง
และแล้วในที่สุดสัมฤทธิ์ผล
บริษัทเรียกให้เธอเข้ามาทำงาน
แต่ทว่ากลับถูกบรรจุให้อยู่ในแผนกพิสูจน์อักษรแทน
เธอจึงต้องพยายามเพื่อพิสูจน์ความสามารถของตัวเองที่มีต่อบริษัท
เพื่อให้เธอก้าวไปเป็นกองบก.ให้จงได้
ความคิดเห็น
- น่าสนใจมากที่ละครหยิบเอาอาชีพพิสูจน์อักษรที่ท่าทางน่าเบื่อมาทำให้เราดูสนุกได้ และเรื่องนี้ก็ทำให้เราไม่ผิดหวังได้จริงๆครับ
- ถ้าคนที่รู้ภาษาญี่ปุ่นมาบ้างดูเรื่องนี้จะเก็ทขึ้นครับ บางทีภาษาญี่ปุ่นสำหรับคนญี่ปุ่นด้วยกันเองยังยากเลย
- ละครเรื่องนี้ทำให้เราได้เห็นการต่อสู้ของตำแหน่งเล็กๆอย่างพิสูจน์อักษร ไม่ว่าตำแหน่งจะเล็กแค่ไหนในบริษัทก็มีเกียรติด้วยกันทั้งนั้น
- อีกอย่างคือเรื่องนี้ตลกพอสมควรครับ ชอบความกัดจิกของนางเอก เธอเป็นสาวGen Yที่กล้าพูดกล้าต่อล้อต่อเถียงกับคนในบริษัท บางทีก็อาจจะทำให้เหวอกันทั้งออฟฟิศได้ ตลกดีครับ
- อิชิฮาระ ซาโตมิ ก็ยังเป็นซาโตมิเหมือนเดิม คาแรกเตอร์เหมือนในเรื่องfrom 5 to 9 ไม่มีผิด โก๊ะๆเด๋อๆ คุยกับตัวเองตลอด น่ารักตามสูตรสำเร็จนางเอกโชโจมังงะ
- ส่วนพระเอก สุดา มาซากิ ออกตอนแรกน้อยมาก เลยยังโนคอมเมนท์ครับ
- สรุป ดูจบแน่นอนครับ ละครซาโตมิยังไงก็ต้องดูจบ แฟนคลับซะอย่าง
- Nigeru wa Haji da ga Yaku ni Tatsuชื่ออังกฤษ We married as a job! / The Full-Time Wife Escapistฉายวันอังคาร 22.00 ช่อง TBS
เรื่องย่อ
เมื่อโมริยามะ
มิคุริ (อารางาคิ
ยุย)
คนที่ไม่ประสบความสำเร็จทั้งเรื่องเรียนและเรื่องงาน
เธอรับงานรับจ้างทำความสะอาดต่อจากพ่อของเธอ
วันหนึ่งเธอก็ได้รับการว่าจ้างให้ไปช่วยทำความสะอาดบ้านของ
ทสึซากิ ฮิรามาสะ (โฮชิโนะ
เก็น)
หนุ่มโสดผู้โดดเด่นในเรื่องการทำงานแต่กลับไม่มีวี่แววเรื่องการแต่งงานเลย
มิคุริเริ่มรู้สึกชอบงานใหม่ที่เธอทำ
แต่แล้ววันหนึ่งครอบครัวของมิคุริต้องย้ายบ้านไปต่างจังหวัด
เธอจึงยื่นข้อเสนอให้ชายหนุ่มเป็นนายจ้างเธอ
และจดทะเบียนสมรส(หลอก)จ้างเป็นแม่บ้านทำความสะอาดบ้าน
ความคิดเห็น
- เหนือสิ่งอื่นใดเลยคือ อารางากิ ยุย(งักกี้) น่ารักมากกกกกก เรียกว่าเป็นเจ้าสาวในอุดมคติเลยก็ว่าได้ น่ารัก ทำงานบ้านเก่ง เอาใจเจ้านาย
- เนื้อเรื่องก็น่ารักดี แนวพระเอกสายมึนๆเนิร์ดๆ กับนางเอกน่ารัก แต่งงานกันหลอกๆ มีสถานะภาพเป็นลูกจ้างกับนายจ้าง ไปๆมาๆก็รักกัน(?) อะไรแบบนี้ แค่คิดก็จิกหมอนแล้ว
- ถ้าพูดอะไรให้ดูซีเรียสเป็นวิชาการ ก็มีความสะท้อนสังคมการทำงานญี่ปุ่นที่ละครทำออกมาได้ดีครับ บอกถึงความยากลำบากในการหางานทำในญี่ปุ่น
- ตอนแรกอ่านชื่อเรื่องภาษาญี่ปุ่นก็งงๆ "ถึงอายที่จะต้องหนี แต่มีประโยชน์" พอได้ดูถึงเข้าใจว่าอ้อ อยากจะหนีจากการว่างงานมาเป็นแต่งงานนี่เอง 555เข้าใจคิดเนอะ
- พล็อตประหลาดแบบนี้ดูจบแน่นอนครับ
- Careerฉายวันอาทิตย์ 21.00 ทางช่อง Fuji TV
เรื่องย่อ
โทยามะ
คินชิโร่ (ทามากิ
ฮิโรชิ)
หัวหน้าตำรวจที่เพิ่งย้ายเข้ามาประจำการสถานีคิตะมาจิ
ผู้มีอุดมการณ์ในการสืบสวนคือจะคอยรับฟังปัญหาและปกป้องสันติภาพของชาวเมือง
เขาปฏิบัติไม่เหมือนหัวหน้าทั่วไปที่จะคอยเซ็นเอกสารบนโต๊ะทำงานเป็นงานประจำ
แต่เขากลับออกสืบสวนทุกอย่างด้วยตัวเองและสร้างความไม่พอใจให้กับทีมสืบสวนเช่นกัน
ความคิดเห็น
- ตอนแรกก็งงๆว่าcareerคืออะไร ลองไปค้นดูก็พบว่า careerคือผู้ที่สอบผ่านข้าราชการ มีcareer pathที่ชัดเจน ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนอะไนก็อยู่ได้สบายจนเกษียณ ตรงข้ามกับnon-careerคือคนที่ไม่ได้สอบผ่านข้าราชการ
- ซึ่งพระเอกเรื่องนี้ก็คือ career ส่วนพวกทีมสืบสวนก็เป็น non careerนั่นเอง
- เนื้อเรื่องเล่าไปเรื่อยๆ มีความเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ พยายามปั้นพระเอกให้เป็นตำรวจในอุดมคติ ผมไม่ค่อยซื้อนะจุดนี้ รู้สึกขัดๆ
- ความขัดใจอีกอย่างคือเงื่อนงำในเรื่องเป็นสิ่งที่อยากจะตะโกนว่าWTF ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยอะไรทั้งสิ้น นึกจะโยงก็โยงกันแบบเออ เอางี้เลยเหรอ ได้!!!!
- ทามากิก็ยังหล่อเหมือนเดิม แก่แล้วก็ยังหล่อ ติ๊งต๊องเล็กๆแต่ก็ยังดูดี
- สรุปขอดูไปก่อนซัก3ตอน ถ้าไม่โอเคก็คงเทครับ