รีวิวซีรี่ส์ญี่ปุ่น
Summer 2016
ละครญี่ปุ่นช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมามีเรื่องที่น่าสนใจเยอะมาก
จึงอยากจะรวบรวมละครทั้งหมดที่ผมได้ดู
นำมาบอกเล่าความคิดเห็น
และแนะนำให้กับทุกท่าน
ทั้งนี้เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น
มีข้อผิดพลาดประการใด
หรือคิดเห็นไม่เหมือนกันก็แชร์กันในคอมเมนท์ได้เลยนะครับ
ส่วนละครซีซั่นเก่าจะรวบรวมมาให้อ่านในตอนหน้าครับ
อันนี้จะพยายามไม่สปอยล์นะ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Suki na Hito ga Iru Koto
ชื่อภาษาอังกฤษ
A Girl & Three Sweethearts
ฉายวันจันทร์
21.00 ช่องFuji TV
เรื่องย่อ
ซากุไร
มิซากิ (คิริทานิ
มิเรย์) เชฟทำขนมสาวผู้มุ่งมั่นกับอาชีพการงานตลอด
วันหนึ่งเธอกลับถูกให้ออกจากงาน
ระหว่างที่หางานใหม่เธอบังเอิญได้พบกับรักครั้งแรกสมัยมัธยม
ชิบาซากิ จิอากิ (มิอุระ
โชเฮย์) เขาชักชวนให้เธอมาเป็นพาร์ทิชิเย่ที่ร้านSea
Sons ที่เขาดำเนินการอยู่
และร่วมชายคาเดียวกับน้องชายอีก2คน
คือคานาตะ (ยามาซากิ
เคนโตะ) และโทมะ
(โนมุระ ชูเฮย์)
ความรู้สึก
ละครเป็นแนวโรแมนติกคอเมดี้
ตลกในความต๊องของนางเอก
เนื้อเรื่องเทไปทางความรักกุ๊กกิ๊กของคู่พระนาง
มีแตะเรื่องความสัมพันธ์ของครอบครัว
และการไล่ตามความฝันบ้าง
แอบรำคาญความคิดไปเองของนางเอกเบาๆ
สูตรสำเร็จนางเอกการ์ตูนตาหวานที่แท้จริง
สิ่งที่ดีงามที่สุดคือโลเคชั่นในการถ่ายทำ
ละครหน้าร้อน โลเคชั่นริมทะเล
ท้องฟ้าเปิดโล่งสีครามสวย
ดูแล้วรู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก
เนื้อเรื่องค่อนข้างเบา
เหมาะกับคนที่ไม่ชอบดูอะไรเครียดๆ
สามารถดูได้เรื่อยๆ
แอบน่าเบื่อในบางช่วง
5ตอนแรกวุ่นวายเรื่องแฟนเก่าคุณพี่โชเฮย์เยอะไปหน่อย
เนื้อเรื่องไม่ค่อยก้าวไปข้างหน้าเท่าไหร่
แต่ความจริงแอบมีความลับซุกซ่อนไว้ทำให้น่าสนใจ
แต่กว่าจะเฉลยปมแรกของเรื่องก็ปาเข้าไปตอนที่
6 ช้าไปไหมเธอ
ตอนแรกกะว่าจะเทตั้งแต่ตอนที่
3 แต่ก็หยิบตอนต่อมาเพื่อส่องพระเอก(โชเฮย์)เล่นๆไปเรื่อยๆ
พอตอน 6 เท่านั้นแหละ
อึ้งไปเลย... (ไม่สปอยล์)
ชื่อเรื่องว่า
3หวานใจก็พอเดาจากชื่อเรื่องได้ว่ามีพระเอกมาให้อวยเยอะแน่ๆ
เจ้าของเอนทรี่ขอปักธงทีมคุณพี่โชเฮย์
ความยาซาชี่(อ่อนโยน)ของคุณพี่มันช่างดีต่อใจจริงๆ
แต่ความจริงรูปโปรโมตของละครค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้วว่าพระเอกคือยามะเคน
แต่ในใจนี่ขอแช่งให้นางเอกนก
สาธุ99 #งานแช่ง
ยังดูไม่จบนะ
ยามะเคน
is ยามะเคนจริงๆ
ถ้าเป็นพระเอกนิสัยซึนเดเระ(ปากไม่ตรงกับใจ)
ยังไงคุณพี่ยามะเคนก็เอาไปกิน
/แอบปักธง
เพลงประกอบละครติดหูมากๆ
ร้องโดยจียอน อดีตสมาชิกวงคาร่า
ชอบครับ
สรุป
ให้เรื่องนี้ 7 คะแนน
เนื้อเรื่องดูเพลินๆดี
แต่ไม่ค่อยน่าติดตามเท่าไหร่ครับ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ON – Ijou Hanzai Sousakan Todo
Hinako
ชื่อภาษาอังกฤษ
Special Agent Todo Hinako
ฉายวันอังคาร
22.00 ช่อง Fuji TV
เรื่องย่อ
โทโด
ฮินาโกะ(ฮารุ)
ตำรวจสืบสวนจบใหม่ที่ขยันและดูร่าเริง
แต่เบื้องลึกเธอกลับซ่อนความลับดำมืดเอาไว้
ซึ่งนั่นก็คือ
เธอเลือกอาชีพตำรวจเพราะต้องการหาคำตอบว่าคนๆหนึ่งจะกลายเป็นฆาตกรด้วยสาเหตุใด
มีสิ่งใดเป็นสวิตช์ที่ทำให้เขาลุกขึ้นมาฆ่าผู้อื่น
ด้วยเหตุนี้จึงพาให้เธอเข้าไปพัวพันกับคดีฆาตกรรมแปลกประหลาดมากมาย
ความรู้สึก
ละครแนวสืบสวนสอบสวน
ค่อนข้างไปในทางHorrorเลยทีเดียว
ซูมสภาพศพ ซูมรอยแผล ซูมเลือด
จริงๆก็ไม่ต้องทำให้มันเรียลขนาดนั้นก็ได้
ใครใจไม่แข็งพอไม่ควรดูครับ
เรื่องนี้จะมีคดีใหญ่ๆ1คดีเป็นเส้นเรื่องหลัก(จบในตอนที่5)
และจะมีคดีย่อยตอนละ1คดี
อะไรที่เป็น
Mysteryของญี่ปุ่นมักจะเริ่มต้นได้ดี
แต่มักจะจบแป้กประจำ(ไม่สมเหตุสมผลหรือไขคดีได้อย่างง่ายดายเกินไป)
แต่เรื่องนี้กลับทำจบออกมาได้โอเคเลย
รับได้ เพิ่งดูถึงตอนที่5
จบครึ่งแรกได้ประทับใจ
เนื้อเรื่องสนุกมาก
ชวนติดตาม ความลับของนางเอกน่าสนใจ
ความจริงผมดูเรื่องนี้เพราะเพิ่งดูSekai
Ichi Muzukashii Koiจบ แล้วอยากดูฮารุต่อมากๆ
แต่ขี้เกียจดูเรื่องAsa
gi Kita เลยเอาเรื่องนี้มาดูแทน
ชอบมากๆ
จุดแข็งของละครญี่ปุ่นอย่างหนึ่งคือทำตัวละครโรคจิตออกมาได้สุดทางดี
ผมชอบความโรคจิตของฆาตกร+ยัยนางเอกเรื่องนี้มาก
ขนลุกตาม กลัวแล้ว
การดีไซน์คดีฆาตกรรมในเรื่องนี้ก็น่าสนใจครับ
ทำออกมาค่อนข้างเหนือจินตนาการอยู่เหมือนกัน
ฆ่าแบบเก๋ไก๋ไม่ซ้ำใครดี
แต่ความโหดก็มาเต็ม
ย้ำอีกครั้งว่ากลัวศพกลัวเลือดอย่าดูเลยครับ
จุดแย่อย่างนึงของเรื่องนี้คือการเฉลยปมย่อย
ทำได้ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่
จู่ๆไปดึงใครก็ไม่รู้มาเป็นฆาตกรเฉย
ดูแล้วงงว่าอ้าวอีนี่มาจากไหนอ้ะ
แล้วก็จบแบบงงๆ 555
เรื่องนี้มีพระเอก2คนมาให้เชียร์อีกแล้ว
คนแรกคือตำรวจรุ่นพี่ปากหมาซาดิสม์
แสดงโดยโยโคยามะ ยู(คันจานิ8)
กับอีกคนคือจิตแพทย์หนุ่มที่เข้าใจนางเอกไปซะทุกเรื่อง
แสดงโดยฮายาชิ เคนโตะ
แน่นอนว่าผมปักธงเชียร์คุณหมอแน่ๆ
พ่ายแพ้ความยาซาชี่
แต่ทำไมคนดีๆไม่ค่อยเข้าวินไม่เข้าใจเหมือนกัน
ปล.ยังดูไม่จบนะครับ
เลยยังไม่รู้ว่าใครจะเข้าวิน
หรือนกทั้งคู่
ความจริงมันไม่มีฉากรักกุ๊กกิ๊กเลย
โทนหม่นๆดาร์คๆทั้งเรื่อง
แล้วจะมาอวยพระเอกอะไรก๊าน
555
สรุป
ให้เรื่องนี้ 8 คะแนนครับ
ส่วนตัวคือชอบจริงๆ
แต่ย้ำอีกครั้งนึงว่าใจไม่แข็งอย่าดูเลยครับ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Seisei Suruhodo, Aishiteru
ชื่อภาษาอังกฤษ
For the Romantic/ Love Carharsis
ฉายวันอังคาร
22.00 ช่องTBS
เรื่องย่อ
เรื่องราวความรักต้องห้ามที่แสนซับซ้อนระหว่าง
คุริฮาระ มิอะ(ทาเคอิ
เอมิ) สาวพีอาร์สุดมั่นในบริษัทอัญมณีชื่อดังอย่าง
Tiffany
เธอเลิกกับแฟนเนื่องจากไม่อยากลาออกจากบริษัทเพื่อไปแต่งงาน
หลังจากนั้นโชคชะตาทำให้เธอได้พบกับรองประธานบริษัทคนใหม่
มิโยชิ ไคริ (ทาคิซาวะ
ฮิเดอากิ) และค่อยๆตกหลุมรักเขาทีละนิด
จนวันหนึ่งเธอรู้ว่าท่านรองประธานมีภรรยาที่นอนไม่ได้สติในโรงพยาบาลเป็นเจ้าของอยู่แล้ว
ความรู้สึก
เป็นละครที่โรแมนติกดราม่าสุดๆ
ความน้ำเน่ามากกกกก(ก.ไก่x100ตัว)
อะไรจะน้ำเน่าได้ขนาดนี้
ความดีงามของเรื่องอย่างนึงคือเพลงประกอบ
ติดหูสุดๆ เพราะด้วย
ใครดูจบต้องมีฮัมรุริระ
รุรุริระบ้างแหละ
อีกอย่างที่ดีงามคือเสื้อผ้า
ใครอยากได้referenceชุดทำงานชิคๆแนะนำให้ก๊อปปี้สไตล์ของนางเอกไปเลย
ดูเรื่องนี้จะได้ดูเครื่องประดับสวยๆจากทิฟฟานี่แทบทุกตอน
เป็นละครที่หรูหรามาก
ช่วงแรกๆของละครจะเน้นเกี่ยวกับการทำงานเยอะหน่อย
การวางแผนโปรโมตสินค้า
การแก้ไขcrisis อะไรพวกนี้ค่อนข้างเยอะ
ใครอยากดูฉากเลิฟๆก็ต้องอดทนนิดนึง
พอเข้าสู่วังวนความรักเท่านั้นแหละ
มาเต็มมาก ซีนอารมณ์มาแทบทุกฉาก
เอมิร้องไห้แทบทุกฉากจนเริ่มสงสัยว่านางมีสวิตช์สั่งน้ำตาป่าวเนี่ย
นอกจากเอมิแล้ว
บทภรรยาพระเอกก็น่าขนลุกมากครับ
แสดงโดยคินามิ ฮารุกะ
เธอต้องเล่นเป็นภรรยาที่โรคจิต
อิจฉาในตัวนางเอกที่สามีมอบความรักให้
สายตาที่โกรธเกลียดชิงชังสื่อออกมาได้ดีมากๆ
ดูแล้วรู้สึกเกลียดตามไปเลย
555
พระเอกเรื่องนี้
เหมือนเดิม มี2หนุ่มมาให้ตามเชียร์อีกแล้ว
ระหว่างท่านรองประธานบริษัทอย่างฮิเดอากิ
ทาคิซาวะ(หรือทักกี้นั่นแหละ)
กับอีกคนคือพีอาร์จากแบรนด์Jimmy
Chooที่ตามจีบนางเอกอย่างไม่ลดละ
แสดงโดยนาคามุระ อาโออิ
ซึ่งไม่ต้องถามว่าอวยใคร
อวยคุณพี่จิมมี่ชูสิ
แพ้ความยาซาชี่และคันไซเบง(เสียงเหน่อแบบตะวันตก)
เนื้อเรื่องรองของเพื่อนนางเอก2คนแย่งผู้ชายคนเดียวกันก็มีความสนุกอยู่เหมือนกันครับ
ทำให้เรารู้ว่าผู้หญิงนี่น่ากลัวเหมือนกันเนอะ
ถ้าอยากได้อะไรขึ้นมาเธอจะทำได้ทุกอย่างเลยล่ะ
เอาเป็นว่า
ถ้าเป็นคนที่ไม่ชอบเรื่องราวความรักผิดศีลธรรม
ผิดลูกผิดเมีย ประพฤติผิดในกาม
ถือศีลข้อสามอย่างเคร่งครัดก็อย่าดูเลยครับ
เสียความรู้สึกแน่นอน
สรุป
ให้เรื่องนี้ 7 คะแนน
น้ำเน่าไป หลังๆเริ่มรำคาญความคิดไปเองของนางเอก
โถ สวย เลือกได้ หึ...
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Ie Uru Onna
ชื่อภาษาอังฤษ
Your Home Is My Business
ฉายวันพุธ
22.00 ช่องNTV
เรื่องย่อ
เธอโสด
เธอสวย เธอแต่งตัวดี
แต่เธอไม่เคยมีรอยยิ้มให้กับลูกค้าเลยสักครั้ง
ซันเกนยะ มาจิ (คิตากาวะ
เคย์โกะ) สาวนายหน้าค้าบ้านผู้ถือคติ
"ไม่มีบ้านหลังไหนที่ฉันขายไม่ได้"
และสามารถปิดการขายกับลูกค้าได้ในอัตรา
100% เธอรับมือกับลูกค้าหลากหลายประเภทในรูปแบบต่างๆ
และยังช่วยแก้ปัญหาส่วนตัวของลูกค้าได้อีกด้วย
ความรู้สึก
ละครแนวการทำงาน
คอเมดี้ สนุก ดูง่าย
เข้าใจไม่ยากเท่าไหร่
ละครแนวการทำงานเป็นรูปแบบที่คนทำละครญี่ปุ่นถนัดอยู่แล้ว
และเรื่องนี้ก็ทำออกมาได้อย่างดีครับ
การตั้งชื่อตัวละครจะมีความเก๋อย่างหนึ่ง
คือชื่อทุกคนจะมีชื่อส่วนประกอบในบ้าน
เช่น ซันเกนยะ(บ้าน)
นิวะโนะ(สวน)
ยาชิโระ(อาคาร)
มุโรตะ(ห้อง)
การรับมือกับลูกค้าในเรื่องนี้สนุกมาก
เจาะชีวิตของนายหน้าได้เป็นอย่างดี
เช่น นางเอกต้องขายบ้านที่เคยมีคดีฆาตกรรมเธอจะทำอย่างไร
ขายบ้านให้กับฮิคิโคโมริ(คนที่ไม่ยอมออกจากบ้าน)เธอจะมีวิธีไหน
บางทีก็ย้อนคิดว่าถ้าเป็นเราเองเราจะจัดการกับเหตุการณ์นี้ยังไงดี
ซึ่งแต่ละวิธีที่เธอนำมาใช้ก็เป็นวิธีที่สร้างสรรค์มากจนเราคิดไม่ถึง
กราบคนเขียนบท
เรื่องนี้สอนว่าการสังเกตลูกค้าแม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆนั้นช่วยให้นางเอกสามารถปิดการขายได้
คนทำอาชีพเซลส์ควรดูครับ
นอกจากนี้จะได้เห็นการกระตุ้นคนในบริษัทของซังเกนยะว่าเธอจะบิ๊วลูกน้องให้ทำยอดขายได้อย่างไร
ซึ่งความจริงก็แอบPower
Harassmentไปหน่อย
การเล่าเรื่องพื้นหลังของนางเอกสนุกดี
ค่อยๆเผยชีวิตของตัวเองออกมาทีละนิด
สาเหตุที่ทำให้กลายเป็นคนแบบนี้
และบางทีก็มีมุมที่เป็นหัวหน้าที่สนับสนุนลูกน้อง
แต่ไม่แสดงออกมาชัดเจน
เป็นอะไรที่เราดูแล้วรู้สึกน่ารักดีครับ
ความคอเมดี้ของเรื่องนี้ทำออกมาได้เยี่ยมครับ
จังหวะตลกดีมากๆ
ทุกครั้งที่ซันเกนยะตะโกนว่า”GO!!”
ตลกทุกครั้ง
ใครคาดหวังเรื่องโรแมนติกก็ไม่พลาด
มีเหมือนกัน มีพระเอกมาให้อวย2คน(อีกแล้ว)
คนแรกคือหัวหน้าสาขา
แสดงโดย นาคามุระ โทรุ
กับอีกคนคือลูกน้อง(ทาส)ของซันเกนยะ
แสดงโดยคุโด อาสุกะ
แต่หวังเรื่องรักๆในละครเรื่องนี้ไม่ค่อยได้
เพราะเรื่องเน้นการทำงานมากกว่า
แต่สิ่งที่คาดหวังได้แน่นอนคือการแสดงของคิตะกาวะ
เคย์โกะ ทำดีมากครับ ทุ่มสุดตัว
สมกับที่เป็นดาราแม่เหล็ก
สรุป
เรื่องนี้ให้ 9 ครับ
เรื่องนี้ผมชอบที่สุดในซีซั่นนี้เลย
หักคะแนนตอนจบเท่านั้นเอง
ขัดใจ...
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Hajimemashite, Aishiteimasu
ฉายวันพฤหัส
21.00 ช่องTV Asahi
เรื่องย่อ
คู่สามีภรรยาอุเมดะ
ตัดสินใจว่าจะยังไม่มีลูกจนกว่า
มินะ (โอโนะ มาจิโกะ)
ภรรยาจะสามารถเอาชนะการแข่งขันระดับประเทศและเป็นนักเปียโนมืออาชีพให้ได้ แต่ว่าเธอตั้งแต่มัธยมเธอแพ้ติดต่อกัน49ครั้ง
และถ้ายังทำไม่สำเร็จอีกก็ตั้งใจว่าจะล้มเลิกความฝันเสียที
และแล้วพรหมลิขิตก็พาเด็กชายปริศนาโผล่เข้ามาในบ้าน(โยโคยามะ
วาตารุ) ทั้งคู่จึงตั้งใจรับเด็กคนนี้เป็นลูกบุญธรรมและทำให้ชีวิต"ครอบครัว"มีความหมาย
ความรู้สึก
ละครแนวดราม่า
ครอบครัวที่เนื้อหาเข้มข้นมาก
อาจจะมีบางตอนที่ทำให้ต้องเสียน้ำตากันได้เลย
ละครเรื่องนี้จะพาเราไปเข้าถึงระบบการเลี้ยงบุตรบุญธรรมว่ามันละเอียดอ่อนแค่ไหน
การจะรับคนๆนึงมาเป็นลูกไม่ใช่ว่าเข้าไปในสถานสงเคราะห์แล้วจิ้มๆใครออกมาเลี้ยงก็ได้
ถ้าเลี้ยงแล้วเบื่อก็โยนเข้าสถานสงเคราะห์เหมือนเดิมหรือเอาไปปล่อยวัดไม่ได้
ถ้าอยากจะหย่าทีหลังก็ทำไม่ได้
การที่คุณจะเลี้ยงคนๆนึงมันคือชีวิตทั้งชีวิตและอนาคตของเขา
เป็นการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่ที่สามารถเปลี่ยนชีวิตคนๆหนึ่งไปได้เลยครับ
เพราะฉะนั้นการคัดเลือกพ่อแม่จึงกลายเป็นเรื่องที่สำคัญ
ซึ่งละครเรื่องนี้จะพาเราไปเจาะเรื่องการเป็นพ่อแม่ที่ดีควรจะเป็นอย่างไร
ปัญหาการถูกพ่อแม่ทิ้งก็เป็นเรื่องที่น่าสลดใจเหมือนกัน
เด็กที่อายุไม่กี่ขวบต้องเจอเรื่องร้าย
มันจะกลายเป็นบาดแผลในใจทั้งชีวิตที่ไม่มีทางหายขาด
คิดจะมีลูกเองก็ต้องคิดให้ดีเช่นกัน
ไม่ใช่ว่ามีแล้วเลี้ยงทิ้งๆขว้างๆ
แค่เนื้อหาตอนแรกก็หนักพอสมควรแล้ว
หลังๆจะเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ
แต่ก็จะมีจุดที่ทำให้เราผ่อนคลาย
ยิ้มไปกับความไร้เดียวสาของเด็ก
ตอนนี้ดูไปไม่เท่าไหร่เลยไม่ค่อยมีความเห็นอะไรมากมายครับ
สรุป
เรื่องนี้ให้ 9 คะแนนครับ
ละครเนื้อหาดีๆแบบนี้ไม่น่าพลาดครับ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Koe Koiฉายวันศุกร์
24.52 ช่อง TV Tokyo
เรื่องย่อ
โยชิโอกะ
ยุยโกะ (นากาโนะ
เม) เริ่มต้นชีวิตม.ปลายได้ไม่ดีนักเนื่องจากอาการป่วย
จนทำให้ไม่ได้ไปโรงเรียนในวันแรก
ทว่า หัวหน้าห้องมัตสึบาระคุง
กลับโทรมาไถ่ถามอาการด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
จนเธอตกหลุมรักน้ำเสียงของเขา
แต่แล้ววันต่อมาก็พบว่ามัตสึบาระคุงเป็นชายปริศนาที่มีถุงกระดาษครอบหัวอยู่ตลอดเวลา
ความรู้สึก
ละครแนวเลิฟคอเมดี้ในโรงเรียนที่ดูสนุกใช้ได้ครับ
เรื่องนี้ทำมาจากมังงะในชื่อเดียวกัน
จังหวะในเรื่องเลยจะเป็นจังหวะมังงะไปหน่อย
เหมือนไม่ได้ดูละครแต่เหมือนดูอนิเมแบบLive
Action ดูแล้วขัดๆไปหน่อย
แต่ผมว่าสนุกดีนะ
คนที่พากย์มัตสึบาระคุงคือซากุไร
ทาคาฮิโระ ผมไม่ค่อยดูอนิเมเลยไม่รู้ว่าเป็นใคร
แต่เพื่อนบอกว่าเป็นนักพากย์ที่นิยมมากๆครับ
ผมว่าเสียงเขาเพราะดีครับ
ตอนดูต้องลดความสว่างหน้าจอตลอด
เผลอบาลานซ์Brightnessเยอะเกินไปเหรอ
แสบตาเกิน 555
สรุป
เรื่องนี้ให้ 6 คะแนนครับ
เป็นละครกลางๆไม่โดดเด่นเท่าไหร่
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Toki wo Kakeru Shoujo
ชื่อภาษาอังกฤษ
The girl who leapt through time
ฉายวันเสาร์
21.00 ช่องNTV
เรื่องย่อ
วันหนึ่งโยชิยามะ
มิฮาเนะ (คุโรชิมะ
ยุยนะ) เดินผ่านห้องแล็บเคมี
เธอสูดดมสารเคมีตัวหนึ่งเข้าไป
แล้วหลังจากนั้นเธอก็มีความสามารถพิเศษในการย้อนเวลาได้เพื่อแก้ไขเหตุการณ์ต่างๆ
ฟุรุมาจิ
โชเฮย์ (คิคุจิ
ฟูมะ) เพื่อนสนิทในวัยเด็กของมิฮาเนะ
หรือคนที่มิฮาเนะเข้าใจว่าเขาเป็นเพื่อน
ความจริงแล้วเขาเป็นนักวิจัยอัจฉริยะจากอนาคตผู้คิดค้นยาย้อนเวลาได้
เขาย้อนมายังปี2016
แต่ว่าไม่สามารถย้อนกลับไปยังเวลาที่เขาจากมาได้
ความรู้สึก
เป็นละครสั้นๆเพียง5ตอน
เป็นละครแนวเลิฟคอเมดี้(อีกแล้ว)
ตัวนำเรื่องเป็นผู้หญิง(อีกแล้ว)
มีผู้ชาย2คนมาให้เลือก(อีกแล้ว)
555
บางทีเราอาจมีเรื่องที่อยากย้อนเวลากลับไปแก้ไขอยู่ในใจ
แต่ความจริงแล้วบางทีการไม่แก้ไขมันแล้วปล่อยให้เป็นไปอย่างนั้น
มันอาจจะดีกว่าก็ได้
ทั้งนี้ทั้งนั้นมันเป็นละครไซไฟ
ซึ่งเป็นแนวที่ผมไม่ถนัดเลยครับ
ผมเลยค่อนข้างเฉยๆไปในทางไม่ชอบ
แต่ถ้าคนอื่นอาจจะรู้สึกชอบก็ได้นะครับ
สรุป ให้
6คะแนนครับ ดูเพลินๆ5ตอน
แปปเดียวก็จบแล้ว
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Kenja no Ai
ฉายวันเสาร์
22.00 ช่อง WOWOW
เรื่องย่อ
ทาคานากะ
มายุโกะ (นากายามะ
มิโฮะ) มีความสัมพันธ์ลับๆกับซาวามูระ
นาโอมิ (ริวเซย์
เรียว) โดยปิดบังไม่ให้พ่อแม่ของฝ่ายชายได้รับรู้
แท้จริงแล้วนั่นคือการล้างแค้นที่เธอรอคอยมาตลอด
20 ปี
มายุโกะ
ในวัย13ปี
เธอเกิดมาในครอบครัวที่เพียบพร้อม
และมีรักครั้งแรกกับเรียวอิจิ(ทานาเบะ
เซย์อิจิ)ชายหนุ่นผู้ฝากตัวเป็นศิษย์กับพ่อของเธอ
แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่ออาซากุระ
ยูริ(ทาคาโอกะ
ซากิ)ย้ายเข้ามาอยู่ข้างบ้าน
เธอกับยูริเป็นเพื่อนกันในเวลาอันรวดเร็ว
แต่สุดท้ายยูริกลับแย่งทุกอย่างจากเธอไป
แม้แต่ผู้ชายที่เป็นรักครั้งแรก
เมื่อลูกของยูริกับเรียวอิจิลืมตาเกิดมาบนโลก มายุโกะจึงมีปณิธานอันแรงกล้าว่าจะใช้เขาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อคนนี้
ความรู้สึก
คู๊ณณณ
แค่เรื่องย่อก็แซ่บพริก10เม็ดแล้ว
อู้วหูววว
ถ้าเรื่องนี้มีคำหยาบหลุดมาบ้างต้องขออภัยจริงๆ
เนื้อเรื่องที่เข้มข้น ภาพในเรื่องถ่ายออกมาอาร์ตทีเดียว
ละเมียดบรรจงมาก กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม
วางให้ภูเขาอยู่ในเฟรมได้พอดี
บ้านนางเอกตกแต่งอย่างหรูหรา
เหมาะสม งานอาร์ตเอาไปเลย
ความโป๊เปลือยในเรื่องนี้แอบวับๆแวมๆ
มีเซ็กซ์ซีนโผล่มาบ้าง
เห็นก้นขาวๆของพระเอกแว้บๆ
แฮ่ก แฮ่ก
ไม่เหมาะกับเด็กแน่นอน
มีฉากคุณป้าล่อลวงเด็กน้อยอายุ
5ขวบ คุกมั้ยล่ะคุ๊ณณณณ
อีกสิ่งที่เราชอบคือความโรคจิตของยูริเนี่ยแหละ
คนอะไร๊แย่งของนางเอกได้ทุกสิ่งอย่าง
แย่งสร้อย แย่งตุ้มหู
ไปๆมาๆลามไปแย่งแฟน เอาสิ
นี่แค่ep.1 ในep.2แย่งโหดกว่านี้อีก
คือโรคจิตนรกมาก
แล้วไม่มีความสำนึกด้วยนะ
5555
ส่วนนางเอกก็เป็นฝ่ายถูกกระทำ
ฮือๆ โดนแกล้ง
แต่ในใจคือจริงๆแล้วชั้นนี่แหละกำลังคั่วลูกชายหล่อนอยู่ย่ะ
หึ โอ๊ยยย แซ่บ
สงสารแค่น้องพระเอกเท่านั้น
คนดีๆอย่างน้องไม่น่าโดนเค้าหลอกเลย
มาหาพี่มา /เข้าคุกไปอีกคน
สรุป
เรื่องนี้ให้ 8 ครับ
ยังดูไม่จบนะ
ที่เขียนไปทั้งหมดก็แค่ep.แรกเท่านั้นครับ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Tokuyama Daigoro wo Dare ga
Koroshitaka?
ชื่อภาษาอังกฤษ
Who killed Tokuyama Daigoro?
ฉายวันเสาร์
24.20 ช่อง TV Tokyo
เรื่องย่อ
เช้าวันหนึ่ง
ห้องเรียนของเด็กสาวทั้ง22คนมีศพของชายผู้หนึ่งตั้งอยู่กลางห้อง
เขาคือโทคุยามะ ไดโกโร่
(ชิมาดะ คิวซาคุ)
ร่างไร้ลมหายใจที่ตายอย่างเป็นปริศนา
ร่างศพที่ยังอุ่นๆอยู่
ทำให้เด็กสาวสันนิษฐานได้ว่าคนร้ายอาจอยู่ไม่ไกลจากตัวของพวกเธอเอง
พวกเธอจึงร่วมมือกันซ่อนศพและสืบสวนหาคนร้ายไปพร้อมๆกัน
ความรู้สึก
ละครแนวมืดๆ
ดาร์คหม่น
เวลาดูต้องปรับจอให้สว่างตลอดเวลาถึงจะดูสบาย
เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของวงKeyakizaka46
กลุ่มไอดอลที่กำลังมาแรงในช่วงนี้
ตรรกะและเหตุผลการกระทำของตัวละครในเรื่องอ่อนมาก
ง่อยเลยแหละ ดูแล้วถอนหายใจตลอดเวลา
จนต้องเปลี่ยนจากโฟกัสเนื้อเรื่อง
หันมาโฟกัสที่ส่องหน้าตาของไอดอลแทนถึงรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
แต่ความจริงพล็อตเรื่องน่าสนใจมาก
การซ่อนศพไว้ในห้องแล้วแต่ละตอนก็จะมีความลับบางอย่างค่อยๆเผยออกมา
คนเขียนบททำได้ฉลาดมากๆ
ถึงจะมี22คนในห้องก็ยังเกลี่ยๆบทกันไปได้
แม้ว่าจะได้เล่นไม่เท่ากันทุกคนก็เถอะ
ดีแล้ว
สรุป ให้
6 ครับ ละครทำออกมาไม่ค่อยดี
แต่ถือว่าเป็นการปูเส้นทางของนักแสดงใหม่ครับ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
10. HOPE – Kitai Zero Kara Shinnyuu
Shain
ฉายวันอาทิตย์
21.00 ช่องFuji TV
เรื่องย่อ
อิจิโนเสะ
อายุมุ(นากาจิมะ
ยูโตะ)
ใช้ชีวิตทั้งหมดไปกับการไล่ตามความฝันเป็นโปรหมากกระดาน
แต่ทุกอย่างกลับผิดพลาดเนื่องจากแม่ของเขาป่วยในวันสอบ
จนทำให้เขาต้องเสียสมาธิ
หลังจากความฝันสลายลงไป
คุณแม่ได้เสนอให้เขาเข้าโปรแกรมฝึกงานในบริษัทแห่งหนึ่ง
ถ้าฝึกงานผ่านจะได้รับว่าจ้างให้เป็นพนักงานประจำ
อายุมุจบเพียงม.ปลายจึงต้องทุ่มเทมากกว่าคนอื่นหลายเท่าเพื่อเอาตัวรอดในบริษัทใหญ่แห่งนี้ให้ได้
ความรู้สึก
มาซักที
ละครที่ดำเนินเรื่องโดยผู้ชาย
เรื่องข้างบนทั้งหมดที่ผ่านมาเป็นเรื่องดำเนินโดยผู้หญิง
ที่ดูหลักๆคือเพราะส่องยูโตะเท่านั้นเลย
555 แต่พอดูเนื้อหาของเรื่องก็น่าสนใจนี่นา
เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากละครเกาหลีชนะรางวัลเรื่อง
Misaeng ซึ่งค่อนข้างคาดหวังได้ว่าดีแน่ๆ
การเอาละครเกาหลี20ตอนมาบีบให้เหลือแค่10ตอนตามสไตล์ญี่ปุ่น
มันจะไม่ยืดเยื้อแน่ๆ
ดีตามที่คาดครับ
แค่ตอนแรกก็มีสถานการณ์บีบบังคับพระเอกถึง2-3เรื่อง
ซึ่งถ้าเป็นละครปกติเชื่อว่าเอาไปตัดแล้วยืดเป็น
2 ตอนได้สบายๆ
แต่เรื่องนี้เข้มข้นจริงๆ
แค่ตอนแรกก็เอาอยู่
ผมชอบดูละครแนวการทำงานอยู่แล้ว
พอมาเรื่องนี้ก็โอเคเลย
ถูกจริตมาก ความทุ่มเทของพระเอกช่างน่านับถือ
ตรงข้ามกับละครเรื่องYutori
desu ga nani kaจากซีซั่นที่แล้วอย่างสิ้นเชิง
ถ้าเบื่อละครญี่ปุ่นแนวกลั่นแกล้งในโรงเรียน ก็มาดูเรื่องนี้เป็นแนวกลั่นแกล้งในที่ทำงานแทนครับ
สิ่งที่ไม่ชอบคือความโลกสวยในละครเยอะมาก
ออกมาพูดหล่อๆให้คนประทับใจอะไรแบบนั้นคือมันไม่มีจริงในโลกใบนี้หรอก
แต่นี่มันก็ละครอะเนอะ
มอบมงให้แล้วกัน
สรุป ให้
8 ครับ ละครซีเรียสหน่อยๆ
แต่ได้ส่องยูโตะก็สบายใจ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
11. Aogeba Toutoshi
ชื่อภาษาอังกฤษ
Brass Dreams
ฉายวันอาทิตย์
21.00 ช่องTBS
เรื่องย่อ
ฮิคุมะ
โคอิจิ (เทราโอ
อาคิระ)
นักแซ็กโซโฟนชื่อดังที่ผันตัวมาเป็นครูสอนดนตรี
ถูกไหว้วานจากอาจารย์ใหญ่โรงเรียนมิซากิ
โรงเรียนที่มีชื่อเสียในเรื่องเด็กเกเรมากมาย
ให้เขาไปช่วยสอนและควบคุมวงดนตรีเพื่อหวังจะเปลี่ยนแปลงโรงเรียนไปในทางที่ดีขึ้น
ฮิคุมะต้องรับมือกับปัญหาของเด็กมากมาย
ช่วยรวบรวมทุกคนให้เป็นหนึ่งเดียวไปพร้อมๆกับการสานฝันของเด็กๆทุกคนให้ถึงจุดหมายโดยมีดนตรีเป็นสะพานเชื่อม
ความรู้สึก
ถ้าพูดถึงเรื่องราวครูแก้ปัญหาเด็กเกเรในโรงเรียน
ยังไงก็ต้องนึกถึงGTOมาเป็นอันดับแรก
แต่เรื่องนี้ต่างออกไปครับ
เรื่องนี้จะแก้ปัญหาอย่างใจเย็น
กล้าเผชิญหน้า ไม่มีความรุนแรง
จนเด็กๆรู้สึกยอมรับคุณครูออกมาจากใจ
ในเรื่องจะค่อยๆเล่าปัญหาในใจทีละคนๆ
แล้วคุณครูจะเข้ามาช่วยเผชิญหน้าร่วมกันแก้ไข
ดูแล้วมีน้ำตาซึมแน่นอน
อบอุ่นครับ
พูดถึงนักแสดง
เทราโอะเอาขึ้นหิ้งได้เลย
สุดยอดจริงๆ ผมเคยดูYokoso
Wagaya eมาก่อน
ตอนนั้นรับบทคุณป๋าเซื่องๆใจดี
เรื่องนี้ก็มาเป็นคุณครูใจดี
รอยยิ้มของเขาอบอุ่นครับ
เหมาะกับบทแบบนี้จริงๆ
อิชิอิ
อันนะ จากวงE-girlก็ทำได้ไม่เลวครับ
เป็นผู้หญิงแกร่งในบรรดาเด็กผู้ชายแก่นๆ
ดูแล้วไม่รู้สึกขัดครับ
ที่น่าส่องที่สุดคือน้องๆนักเรียนชาย
หน้าดีเยอะมาก 555
เคนทาโร่คุงเป็นเหตุผลอย่างหนึ่งที่ทำให้ผมดูเรื่องนี้
ติดตามน้องมาจากเรื่องWatashi
Kekkon Dekinai janakute, Shinain desu
พอได้ดูเรื่องนี้ก็รู้สึกดีต่อใจเหมือนเดิม
จะตามน้องไปทุกเรื่องจ้า
ส่วนคนอื่นๆเช่น
ทาคุมิคุงจากวงดิช มาเคนยูคุง
มุราคามินิจิโร่คุง
อันนี้ขอจดไว้ในลิสต์ก่อน
หน้าดีจริงๆ /แตกไลน์
สรุปตกลงดูละครหรือดูผู้ชายกันแน่เนี่ย...
สรุป ให้
9 ครับ ใครอยากหาแรงบันดาลใจดีๆ
เรื่องนี้ผมแนะนำเลย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
12. Soshite, Dare mo Inaku Natta
ชื่อภาษาอังกฤษ
Lost ID
ฉายวันอาทิตย์
22.30 ช่อง NTV
เรื่องย่อ
โทโด
ชินอิจิ (ฟุจิวาระ
ทัตสึยะ) หนุ่มนักวิศวกรITอนาคตไกล
วันหนึ่งชื่อของเขาถูกลบออกจากฐานข้อมูลประชากรญี่ปุ่น
และมีคนอื่นเข้ามาสวมรอยโดยใช้ชื่อเขาแทน
โทโดจึงกลายเป็นบุคคลไร้ตัวตน
ถูกไล่ออกจากงาน และยังถูกตามล่า
ทั้งหมดนี้มันเรื่องอะไรกันแน่
เขาจึงออกตามหาความจริงและพร้อมจะแก้แค้นในสิ่งที่ทำลงไป
ความรู้สึก
เหมือนไม่ได้เห็นทัตสึยะนานมาก
ตั้งแต่เดธโน๊ต
พอมาเรื่องนี้ก็ฝากฝีไม้ลายมือได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเคย
ละครแนวสืบสวนสอบสวนญี่ปุ่น
อย่างที่ว่ามักจะจบแป้ก
แต่เรื่องนี้ออกทะเลไปตั้งแต่กลางเรื่องแล้ว
ดูๆไปเริ่มรู้สึก What?
นี่เล่นอะไรกันอะ
เฮ้ยย
ในแง่บทผมว่าวางพล็อตได้น่าสนใจมาก
เรื่องการลบล้างข้อมูลไอดี
ซึ่งแอบกัดรัฐบาลญี่ปุ่นในปัจจุบันที่พยายามโปรโมตให้ทุกคนหันมาใช้มายนัมเบอร์กัน
เรื่องนี้อาจเกิดขึ้นจริงในญี่ปุ่นอนาคตก็ได้นะครับ
อาจมีคนสงสัยว่ามายนัมเบอร์คืออะไร
ที่ญี่ปุ่นไม่มีบัตรประชาชนเหมือนไทย
เพราะฉะนั้นเขาเลยจะทำเลขประจำตัวปชช.เพื่อให้ง่ายต่อการเก็บภาษี
และอื่นๆ แล้วเรียกอิเลขนี้ว่ามายนัมเบอร์
ซึ่งป่านนี้ก็ยังเก็บข้อมูลยังไม่เสร็จเลย
แอบรำคาญเจ้าของบาร์นิดหน่อยครับ
(อิโนะโอะ เคย์)
คือเป็นอะไร
ทำไมต้องพูดให้เซ็กซี่ตลอดเวลา
555 /แฟนจัมป์อย่าตบหนู
ถามว่าจบแป้กมั้ย
ก็นั่นแหละ ดูเองเถอะ....
สรุป ให้
6 ครับ เสียดายพล็อตล้ำๆ
น่าจะทำให้มันกระชับกว่านี้
ไม่ปล่อยตู้มทีเดียวในตอนจบ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สรุปละครเท่าที่ดูในซีซั่นนี้
Best Drama - Aogeba Toutoshi กับ
Ie Uru Onna เบียดกันมา
แต่ผมขอให้Aogeba Toutoshiแล้วกันครับ
ประทับใจมากกว่า
Best Actor – เทราโอะจากเรื่องAogeba
กับ เอกุจิจากเรื่องHajimemashite
ให้เทราโอะครับ
เพราะเล่นเปลืองตัวกว่า
Best Actress – คิตากาวะจากIe
uru เท่านั้นครับ
อันนี้คือผมเอาเฉพาะที่ผมดู
ผมไม่ได้ดูเรื่องToto
Nee-Chanซึ่งเป็นเรื่องที่มีกระแสมากๆ ถ้าแจกรางวัลจริงๆอาสะโดระอาจจะกวาดเรียบก็ได้ครับ
เรื่องอื่นในซีซั่นนี้ที่กะไว้ว่าจะดูแต่ยังไม่ได้ดูคือเรื่อง
Kibougaoka no Hitobito กับ Kami
no Shita wo Motsu Otoko ครับ
ถ้าได้ดูแล้วจะมาEditเพิ่ม
ส่วนซีซั่นหน้าดูอะไร
ที่ดูแน่ๆคือเรื่อง Jimi ni
Sugoi!ครับ เป็นแฟนคลับอิชิฮาระ
ซาโตมิ ยังไงก็ต้องดูให้ได้ ส่วนเรื่องอื่นๆตอนนี้ยังไม่แน่ใจครับ