Tuesday, December 20, 2016

Suna no Tou ~ฤาครอบครัวที่สร้างมาจะเป็นเพียงแค่เม็ดทราย~

Suna no Tou ~ฤาครอบครัวที่สร้างมาจะเป็นเพียงแค่เม็ดทราย~



"มั่นใจแล้วเหรอว่าการเป็นแม่ของคุณนั้นถูกต้องแล้ว?"
คำถามที่เกิดขึ้นมาในใจตลอดของคนเป็นแม่ ไม่ว่าคนไหนก็ตามคงจะมีคำถามเล็กๆแบบนี้ผุดขึ้นมาในหัวอยู่เสมอเมื่อรู้สึกว่าครอบครัวมีบางอย่างผิดพลาด
บางคนเลือกที่จะยึดแม่ของตนเองเป็นต้นแบบในการใช้ชีวิตเป็นแม่คนต่อไป
บางคนกลับเลือกที่จะทำตามใจตัวเอง โดยคิดว่าสิ่งที่เรามอบให้ลูกนั้นคือสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับลูกแล้ว

แต่ว่าครอบครัวโทโนะนั้น กลับไม่เคยมีต้นแบบที่ดีเลย
ครอบครัวโทโนะ อันประกอบไปด้วย
คุณพ่อที่ทำงานนอกบ้านทุกวัน - เคนอิจิ (ทานากะ นาโอคิ)
คุณแม่ที่เป็นแม่บ้านเต็มตัว – อาคิ (คันโนะ มิโฮะ)
พี่ชายคนโตของบ้านที่อบอุ่นและใจดีเสมอ - คาซึกิ (ซาโนะ ฮายาโตะ)
น้องสาววัยอนุบาลที่มองโลกในแง่ดี - โซระ (อินางาคิ คุรุมิ)



ทั้ง4คนย้ายเข้ามาอยู่อาศัยในตึกสูงถึง50ชั้น โดยหารู้ไม่ว่าสิ่งที่พวกเขากำลังจะต้องเผชิญนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายจนแทบจะทำให้สถาบันครอบครัวล่มสลายได้เลยทีเดียว ที่นี่พวกเขาจะต้องเจอทั้งการแบ่งชนชั้น การรังแก และความลับดำมืดที่ซุกซ่อนอยู่ในตึกแห่งนี้

นอกจากนี้ พวกเขายังต้องเจอกับคดีลักพาตัวเด็กที่เกิดขึ้นติดๆกัน ซึ่งจะเป็นเครื่องพิสูจน์บททดสอบความเป็นแม่ ความเป็นสถาบันครอบครัวว่าพวกเขาแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับสถานการณ์ และผ่านพ้นมันไปได้หรือไม่ ถึงแม้ในบางครั้งก็สุ่มเสี่ยงแทบจะล่มสลายก็ตาม




(**โปรดระวัง เนื้อหาด้านล่างเป็นการสปอยล์เนื้อเรื่องส่วนสำคัญทั้งหมด)




เคนอิจิ คุณพ่อที่ขยันขันแข็งคอยต่อสู้กับโลกภายนอกเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวอยู่เสมอ เขาก็เป็นภาพสะท้อนของคุณพ่อในญี่ปุ่นทั่วๆไปที่ทุ่มเทให้กับการงานจนหลงลืมเวลาที่จะทุ่มเทให้กับครอบครัวไปบ้าง ภาพของเคนอิจิถูกฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่าในละครญี่ปุ่นแทบทุกเรื่อง จนเรารู้สึกว่าเขาเป็นคุณพ่อธรรมดาที่ธรรมดาจริงๆ

การย้ายเข้ามาอยู่ในตึกที่มีราคามหาศาลนั้นเป็นเหมือนวิมานบนดินที่แสนสวยงาม เป็นสิ่งที่เขาวาดฝันมาโดยตลอดว่าอยากจะให้ครอบครัวอยู่ในที่ที่สุขสบาย แต่ความจริงแล้วมันกลับเป็นภาระที่หนักอึ้ง เขาไม่อาจหนีความกดดันจากที่ทำงาน การถูกหัวหน้ากดขี่ และยิ่งไปกว่านั้น ห้องที่เขาซื้อไว้กลับกลายเป็นคมดาบที่คอยจ่ออยู่ปลายคอของเขาตลอดเวลา



เมื่อโดนปลายดาบจ่อคออยู่ คุณพ่อจึงต้องดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อให้เอาชีวิตรอดในบริษัท แม้ว่าจะต้องก้มหัวให้กับคนที่น่ารังเกียจก็ต้องยอมทำ และแล้วเขาก็เข้าไปพัวพันกับภารกิจผิดกฏหมายของบริษัทลูกค้าที่เขาจำใจต้องทำ เพื่อให้ได้มาซึ่งการเซ็นตกลงยินยอมเป็นพาร์ทเนอร์บริษัทตัวเอง เขาต้องขายวิญญาณเพื่อต่อลมหายใจของครอบครัวให้อยู่ได้นานที่สุด

แต่ทว่า สิ่งที่เขาทุ่มเทกำลังทำลายสถาบันครอบครัวอย่างช้าๆ เมื่อครอบครัวมีปัญหาต้องการความช่วยเหลือ คนที่เป็นพ่อกลับไม่สามารถทำหน้าที่คุณพ่อได้เลยสักครั้ง จนในวันที่ครอบครัวใกล้ล่มสลายอยู่รอมร่อ เขาจึงตัดสินใจกลับมาลุกสู้อีกครั้งเพื่อครอบครัวของตัวเอง



ในทางกลับกัน คาซึกิ พี่ชายคนโตของบ้านที่พูดน้อย แต่อบอุ่นและใจดีกับน้องสาวเสมอ พี่ชายที่ไม่เคยทำให้ครอบครัวรู้สึกผิดหวังเลยสักครั้งจนทุกคนไว้วางใจ แต่ใครจะรู้ว่าโลกที่พี่ชายเจอนั้นกลับเลวร้ายยิ่งกว่าโลกที่ผู้ใหญ่ต้องเจอเสียอีก

วันหนึ่ง คาซึกิได้เห็นแหวนแต่งงานของคุณพ่อที่ถอดทิ้งไว้ในห้องน้ำ เขาเห็นวันแต่งงานสลักอยู่หลังแหวนวงนั้น ตัวเลขปีที่แต่งงานอยู่หลังปีที่เขาเกิด2ปี ทำให้เขาเริ่มสงสัยว่าตัวเองเป็นใครกันแน่ เขาจึงเริ่มค้นทะเบียนบ้าน แล้วพบว่าความจริงตัวเองไม่ใช่ลูกแท้ๆของแม่คนนี้

คาซึกิเริ่มคิดว่าตัวเองเป็นเพียงคนแปลกหน้าที่มาขออยู่อาศัยบ้านหลังนี้เท่านั้น แต่ความที่อาคินั้นดีกับเขาเสมอ อาคิไม่เคยทำหน้าที่แม่ได้ขาดตกบกพร่องเลยสักครั้ง เขาจึงรอคอยสักวันหนึ่งที่พ่อแม่ของเขาจะเข้ามาเล่าความจริงเรื่องนี้ให้ฟัง แต่สิ่งที่เขาภาวนามันไม่เคยเป็นความจริงสักครั้ง ครอบครัวไม่เคยเชื่อใจเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว



ความคิดมากทำให้เขาเริ่มพูดน้อยลงจนกลายเป็นคนเก็บตัว เวลาอยู่โรงเรียนก็ไม่เคยมีเพื่อน ซึ่งสังคมโรงเรียน คนที่แปลกมักจะกลายเป็นเป้าหมายในการโดนแกล้งเสมอ และแล้วคาซึกิก็กลายเป็นหนึ่งในนั้น เขาโดนคนที่โรงเรียนรังแกเสมอ แต่ก็ไม่อาจนำเรื่องนี้ไปปรึกษาใครได้ เพราะครอบครัวมักจะไว้วางใจพี่ชายตลอด ทุกครั้งที่มีปัญหาอะไรก็จะบอกตลอดว่าพี่ชายเป็นคนแข็งแกร่ง เป็นพี่ของน้อง เพราะฉะนั้นต้องเข้มแข็งเอาไว้เสมอ แสดงความเข้มแข็งให้ทุกคนเห็นทุกครั้งทั้งๆที่ข้างใจจิตใจเขาใกล้จะแหลกสลายลงก็ตามที

การแกล้งกันค่อยๆเลยเถิดขึ้นไปเรื่อยๆ แม้ว่าเขาจะย้ายโรงเรียนมาอยู่ม.ปลายอีกที่หนึ่ง แต่ก็ยังโดนตามรังควาญอยู่เสมอ ความผิดปกตินี้ถูกเพื่อนสาวคนหนึ่งค้นพบ เธอพยายามช่วยเขาดึงออกมาจากจุดมืดมิด แต่ซ้ำร้าย สิ่งที่เธอทำยิ่งเป็นการฝังกลบเขาให้จมลงไปเรื่อยๆ



และแล้ววันหนึ่ง คุณป้าห้องชั้นบน-ยูมิโกะ ก็เข้ามายื่นมือให้ความช่วยเหลือ เธอช่วยกำจัดแก๊งอันธพาลที่คอยรังควาญตัวเขา และยังจะช่วยให้คำตอบสิ่งที่เขาสงสัยมาโดยตลอด ในจุดที่มืดมิดยังมีแสงสว่างเล็กๆที่อบอุ่น เขาจึงยื่นมือให้อย่างไม่ลังเล

ยูมิโกะ สาวปริศนาชั้น26 เธอเป็นเพียงคนเดียวในตึกแห่งนี้ที่คอยให้ความช่วยเหลือกับอาคิเสมอ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องที่วิกฤต จวนเจียนจะถึงจุดอันตราย ยูมิโกะจะเป็นเสมือนดั่งนางฟ้าที่ลงมายื่นมือช่วยอาคิได้ทันเวลาทุกครั้ง และนอกจากนี้ เธอยังเป็นคนที่บรรดาแม่ๆในตึกให้ความไว้วางใจอีกด้วย



แต่ความจริงแล้วเธอกลับมีความลับที่ดำมืดซุกซ่อนอยู่ เป็นความลับที่ดำมืดยิ่งกว่าใครๆในตึกแห่งนี้ ในห้องของเธอมีCCTVที่คอยจับตาดูพฤติกรรมคุณแม่ทุกคนในตึกทุกฝีก้าว เธอคอยพิพากษาคุณแม่ที่กระทำความผิดด้วยวิธีการที่สุดแสนจะโหดร้าย

ก่อนหน้านี้ เธอเคยกระทำความผิดจนต้องเข้าคุกและตัดสินใจยกลูกของตัวเองให้คนอื่นไป เธอสละสิทธิ์สิทธิ์ในความเป็นแม่คน แต่ก็ไม่เคยหมดความพยายาม เธอคอยติดตามชีวิตลูกของเธอทุกฝีก้าวโดยไม่ให้เขารู้ตัว และรอคอยวันที่จะได้พิพากษาคุณแม่ของลูกเธอ ถ้าเกิดคนๆนั้นสูญสิ้นคุณสมบัติในการเป็นแม่คนขึ้นมา



ยูมิโกะนั้นรอคอยหยิบยื่นความหายนะให้แก่ครอบครัวทาคาโนะทีละนิดๆ ราวกับหอคอยทรายที่มีเธอคอยแอบตักทรายออกอย่างช้าๆโดยไม่ให้พวกเขารู้ตัว จนวันที่หอคอยทั้งหมดพังทลายเหลือเพียงแค่ทรายกองเดียวเท่านั้น

สุดท้าย คุณแม่หัวใจแกร่ง อาคิ หลังจากที่เธอถูกแม่ทิ้งเพียงเพื่อหนีตามผู้ชายไป ทิ้งเธอให้ทำงานในร้านซักรีดเพียงตัวคนเดียว เธอโกรธแค้นแม่ของตัวเอง และพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ตัวเองกลายเป็นแม่แบบที่แม่เคยกระทำต่อตัวเธอ



เธอตัดสินใจเลือกแต่งงานและทิ้งชีวิตทั้งหมดเพื่ออุทิศให้กับการเป็นแม่ แต่ว่ามันกลับไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆเลย ไหนจะต้องคอยเข้าสังคมของคุณแม่ที่มีการจัดลำดับชนชั้นโดยแบ่งตามชั้นห้องพัก ต้องคอยพะเน้าพะนอเอาใจคุณแม่ที่อาศัยชั้นสูงกว่า เพื่อให้ลูกของตัวเองไม่โดนกีดกันจากคนรอบข้าง และยังต้องคอยดูแลเรื่องต่างๆภายในบ้านให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง

สามีของเธอขอร้องให้ตีสนิทกับคุณแม่ชั้นบนสุดของอาคารไว้ เพื่อให้การเจรจาธุรกิจนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ทุกๆอย่างมันไม่ง่ายเลย ในระหว่างที่เธอสับสนเรื่องการเป็นแม่ที่ดีนั้น เธอได้พบกับคุณครูสอนวิชาพละ อุบุคาตะ โคเฮย์ (อิวะตะ ทาคาโนริ) เพื่อนสมัยเด็กที่แอบรักเธอมาตลอด เขากลายเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่งที่คอยให้คำปรึกษากับอาคิได้เสมอ



แต่แล้วเรื่องของเธอและเธอถูกใส่ร้ายว่าเป็นการคบชู้ โคเฮย์ไม่มีทางเลือกจึงต้องโดนสั่งให้ออกจากงาน เขาเลือกที่จะออกเดินทางสู่โลกกว้าง โดยก่อนที่เขาจะไปนั้นเขาได้ชวนอาคิให้ร่วมไปด้วยกันกับเขา

การเป็นได้เป็นแม่คน ก็เหมือนได้ไปเที่ยวรอบโลก ได้เจอเรื่องใหม่ๆที่สนุกในทุกๆวัน"

เธอตัดสินใจเลือกประคองชีวิตครอบครัวไว้ แล้วหันหลังจากอิสรภาพเสรีไปสู่การเป็นแม่ที่ลูกๆสามารถยืดอกภาคภูมิใจได้



และโคเฮย์ คุณครูที่แสนอบอุ่นใจดี แต่ความจริงเบื้องหลังของเขากลับดำมืด แฝงด้วยความปวดร้าวจากการโดนทำร้ายในวัยเด็ก ความเครียดจากการกระทำของแม่สั่งสมเรื่อยๆจนในที่สุดเขาจึงตัดสินให้ว่าจะคอยพิพากษาแม่ทุกคนที่ทอดทิ้งลูกด้วยวิธีการสุดโต่งในรูปแบบของเขา

ครอบครัวจะสุขสมบูรณ์ได้ เมื่อสายสัมพันธ์ภายในครอบครัวแข็งแรงพอ เพียงแต่พวกเขาต้องเธอบททดสอบที่โหดร้าย โดยมีสิ่งรอบข้างเป็นตัวช่วยกระตุ้นปฏิกิริยาให้ทุกอย่างเกิดเร็วยิ่งขึ้น ในที่สุดครอบครัวทาคาโนะก็ฝ่าฟันอุปสรรคได้สำเร็จ ถึงแม้ว่าปราสาททรายที่ก่อขึ้นไว้มันสึกเสียจนใกล้แหลกสลายก็ตามที

สุดท้ายนี้ เราคงต้องถามตัวเองว่า เรารู้จักลูกของเราดีพอแล้วหรือยัง
เราคาดหวังให้คนอื่นเชื่อเรา แล้วเราล่ะ เชื่อมั่นในตัวเขาดีพอแล้วหรือยัง
ทุกคนในครอบครัวจับมือกันแน่นพอที่จะไม่มีใครสามารถเข้ามาทำร้ายได้หรือยัง
ลองหันกลับไปคุยกับครอบครัวอีกครั้งหนึ่งก่อนที่ทุกอย่างจะพังทลายอย่างไม่มีทางซ่อมแซมคืนได้
และเมื่อคุณซ่อมแซมมันแล้ว หอคอยที่คุณซ่อมมามันจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม

(จบส่วนสปอย)





ทั้งนี้ เรื่องนี้ในแง่ของการสืบสวนเรื่องนี้ถือว่ายังทำได้ไม่ดีพอ แต่ก็ไม่เลวร้ายมาก เนื่องด้วยตัวละครในเรื่องที่ปรากฏมีค่อนข้างน้อย จึงเดาได้ไม่ยากว่าแท้จริงแล้วเบื้องลึกเบื้องหลังของคดีนี้เป็นใครกันแน่ที่เป็นผู้ก่อเหตุทั้งหมด



แต่สิ่งที่เรื่องนี้ทำได้ดีมากๆจนต้องยอมรับเลยคือเรื่องการสะท้อนสังคม ความแข็งแกร่งในสถาบันครอบครัวที่สามารถยับยั้งปัญหาสังคมได้ เรื่องนี้นำเสนอออกมาได้อย่างเยี่ยมยอดจนต้องปรบมือให้

ตัวละครทุกตัวในเรื่องนี้ถูกเขียนออกมาได้อย่างดี ทุกคนมีเรื่องราวของตัวเองทั้งสิ้น ไม่มีตัวไหนที่ถูกทิ้งๆขว้างๆอย่างไม่มีสาเหตุ ตอนแรกคิดว่าพี่ชายเป็นเพียงตัวละครดาดๆ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นบทที่เด่นมากๆในเรื่อง เป็นจุดเชื่อมโยงทุกๆคนเอาไว้ด้วยกัน น่าประทับใจมาก



การวางโครงเรื่องทำได้ค่อนข้างดี เนื่องจากละครเรื่องนี้ดาร์คมาก ดูแล้วเครียด แต่คนเขียนก็ไม่ออมมือเลย เขาสามารถทำให้เนื้อเรื่องดำดิ่งสู่จุดมืดมิดลงไปได้เรื่อยๆ เสียจนคนดูอย่างเรายังต้องขนลุกกับการวางแผนล่วงหน้าของผู้เขียน การค่อยๆเฉลยปมทีละนิดๆยิ่งทำให้คนดูอย่างเราหยุดไม่ได้จริงๆที่จะต้องกดดูตอนใหม่ไปเรื่อยๆ ซึ่งถ้าได้ดูสดคงอาจจะมีการลงแดงตายไปข้างนึงแน่ๆ

อีกเรื่องที่ต้องชมอย่างขาดไม่ได้คือการแสดงของตัวละครหลักทุกตัวในเรื่อง ความแข็งขันของอาคิ ความเลือดเย็นของยูมิโกะ และการแสดงครั้งแรกแต่ก็ทำได้ดีไม่ใช่น้อยของคาซึกิ 3คนนี้เล่นสอดประสานกันได้อย่างลงตัวจนบางทีก็เผลอคิดว่านี่เขาเป็นครอบครัวกันจริงหรือเปล่านะ




สรุปสุดท้าย เรื่องนี้ให้ 8 และเป็นละครอีกเรื่องหนึ่งในซีซั่นนี้ที่ไม่อยากให้คุณพลาดด้วยประการทั้งปวง นอกจากเรื่องWe married as a job! กับ Pretty Proofreader ที่เป็นกระแสมากๆในซีซั่นนี้ เรื่องนี้ก็เป้นอีกเรื่องที่อยากให้คุณลองมองดูสักนิด แล้วคุณจะรักเรื่องนี้มากๆ แม้ว่าบางทีอาจจะอยากตบตัวละครบางตัวก็ตาม

3 comments:

  1. รออ่านรีวิว JDorama อีกนะคะ

    ReplyDelete
  2. Titanium Stud Earrings & Men's T-Shirt
    A remmington titanium great babyliss pro titanium hair dryer collection of all-in-one pairings created for the men's T-Shirt. With snow peak titanium spork the right style of earrings and titanium eyeglasses comfortable-tinted designs, a unique titanium solvent trap monocore fit is

    ReplyDelete